วันจันทร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2560

การสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช...


การสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช......

ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง  ประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช....  ในวันที่  ๗  สิงหาคม  ๒๕๕๙  และตามหนังสือ.... ด่วนที่สุด   ที่ พร ๐๐๑๘.๑/ว ๑๘๕๑  ลงวันที่  ๑๑ พฤษภาคม  ๒๕๕๙ เรื่อง  การเตรียมการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ ในภารกิจของสำนักทะเบียน  หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง  ประจำ.... ด่วนที่สุด ที่ ลต (พร) ๐๗๐๒/ว ๒๕๐ ลงวันที่  ๑๒  พฤษภาคม  ๒๕๕๙ เรื่อง  ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติของนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น  เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช....... ในด้านภารกิจความรับผิดชอบของสำนักทะเบียนท้องถิ่น............  ได้ดำเนินการดังนี้
ขั้นตอนดำเนินการ
๑.       จัดทำบันทึกเพื่อขออนุมัติปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อดำเนินการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.......
๒.      เมื่อได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการสนับสนุนการจัดการลงประชามติฯ จากนายกเทศมนตรี........ เรียบร้อยแล้ว ดำเนินการจัดทำคำสั่ง............  ที่ ............. เรื่อง  การแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ................ เนื่องจากบางภารกิจไม่สามารถปฏิบัติงานในเวลาราชการได้
๓.  จัดทำคำสั่ง  สำนักทะเบียนท้องถิ่น............ ที่ ..............  เรื่อง  การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่
รับผิดชอบปฏิบัติงานสนับสนุนการออกเสียงประชามติฯ
๔. รับลงทะเบียนผู้มีสิทธิขอเปลี่ยนแปลงการออกเสียงนอกเขตจังหวัด  ระหว่างวันที่  ๑ พฤษภาคม ถึงวันที่  ๗  กรกฎาคม  ๒๕๕๙ ซึ่งสำนักทะเบียนท้องถิ่น............  มีผู้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดทั้งหมด  จำนวน  ๓  ราย  ขั้นตอนในการยื่นคำร้อง ผู้ยื่นคำร้องยื่นคำร้อง ณ  สำนักทะเบียนท้องถิ่น............  ณ  ที่ว่าการ....  เมื่อได้รับคำร้องแล้วดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องเบื้องต้นกับฐานข้อมูลระบบงานเลือกตั้ง  ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติสามารถลงทะเบียนได้   รับคำร้องเสนอให้นายทะเบียนพิจารณา นายทะเบียนพิจารณาอนุมัติรับคำร้องดำเนินการบันทึกข้อมูลของลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขตจังหวัดในระบบคอมพิวเตอร์ งานเลือกตั้ง  การออกเสียงประชามติ ดำเนินการบันทึกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แจ้งให้กับผู้ยื่นคำร้องทราบตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ให้ตอบกลับภายใน ๓ วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
๕. จัดทำบันทึกหน่วยออกเสียงประชามติ  ระหว่างวันที่  ๓๐  มิถุนายน  ถึงวันที่  ๓   กรกฎาคม ๒๕๕๙ โดยติดต่อประสานงานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง  ๑๐  หมู่บ้าน  เพื่อจัดทำร่างหน่วยและกำหนดสถานที่ออกเสียงประชามติ  ในเขตพื้นที่........  มีจำนวน  ๑๐  หมู่บ้าน  มีหน่วยออกเสียงจำนวน  ๑๒  หน่วยออกเสียง  ส่งให้คณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๒๕  วัน  เพื่อพิจารณาลงนามปิดประกาศตามแบบ อ.ศ. ๔  จำนวน  ๔  ชุด 
๖.       เมื่อคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอได้รับร่างประกาศหน่วยออกเสียง  และที่ออกเสียงแล้วตรวจสอบว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่  เห็นว่าถูกต้อง จัดพิมพ์ประกาศกำหนดหน่วยออกเสียงและที่ออกเสียง  ระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๗  กรกฏาคม๒๕๕๙ จำนวน  ๔  ชุด  เพื่อให้ประธานคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอลงนามแล้วดำเนินการ ดังนี้  ชุดที่ ๑  ปิดประกาศ  ณ ที่ออกเสียง  ชุดที่ ๒  ส่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด  เพื่อเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
ชุดที่ ๓  มอบให้คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงปิดประกาศ  ณ  ที่ออกเสียงในวันออกเสียงชุดที่ ๔ ให้นายทะเบียนเก็บรักษาไว้เป็นชุดสำรอง
๗.  ประมวลผลข้อมูลผู้มีสิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดและส่งข้อมูลไปหมายเหตุในบัญชีปกติ
ระหว่างวันที่  ๘ ถึงวันที่  ๑๑  กรกฎาคม  ๒๕๕๙ 
๘. ส่งประกาศหน่วยออกเสียงและที่ออกเสียงให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต  วันที่  ๘ กรกฎาคม  ๒๕๕๙
๙.  จัดทำประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง  ก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๒๕ วัน  ระหว่างวันที่ ๑๒  ถึงวันที่  ๑๕  กรกฎาคม  ๒๕๕๙  ผู้อำนวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร  หรือผู้ที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางมอบหมายมีหน้าที่จัดทำร่างประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงตามแบบ อ.ส.๖ จำนวน  ๔  ชุด ส่งให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเพื่อพิจารณา เมื่อคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอได้รับร่างประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงจากนายทะเบียนท้องถิ่น ตรวจสอบความถูกต้องแล้วคณะอนุกรรมการประจำอำเภอมอบหมายจะลงนามประกาศบัญชีรายชื่อและปิดประกาศ  ณ  สถานที่ที่กำหนดไม่น้อยกว่า  ๒๐ วัน    การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
- จัดทำเป็นรายหน่วยออกเสียง  (หมู่บ้าน) โดยเรียงตามลำดับเลขหมายประจำบ้านรวมทั้งให้จัดเรียงตามตัวอักษรของผู้มีสิทธิออกเสียงในแต่ละบ้าน
-  ต้องมีรายการ  เลขหมายประจำบ้าน  เลขประจำตัวประชาชน  ชื่อตัว  ชื่อสกุล  เพศ
-  มีชื่อ สกุล และตำแหน่งของผู้พิมพ์และผู้ทานที่สามารถตรวจสอบได้
-  บัญชีรานชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงให้จัดทำจำนวน  ๔  ชุด  ให้ปิดประกาศ  ดังนี้
ชุดที่ ๑  ปิดประกาศไว้  ณ  ที่ออกเสียง
ชุดที่ ๒  สำหรับนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  ใช้แก้ไปรับปรุงกรณี
การเพิ่มชื่อ  การถอนชื่อ  หรือการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แล้วเก็บรักษาไว้
                       ชุดที่ ๓  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น แก้ไขปรับปรุงให้ตรงกับ
                                      ชุดที่ ๒  แล้วมอบให้คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงปิดประกาศ
ณ  ที่ออกเสียง  ในวันออกเสียง

                     ชุดที่ ๔  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  แก้ไขปรับปรุงให้ตรงกับ
                                      ชุดที่ ๒  แล้วจัดทำปกให้มีความแตกต่างจากชุดอื่น  เพื่อส่งมอบให้
                                      คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียไว้ใช้ตรวจสอบการใช้สิทธิออกเสียง
                                      และให้ผู้มีสิทธิออกเสียงลงลายมือชื่อในการลงคะแนนออกเสียง
๑๐.   ส่งบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิอกเสียงให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด  วันที่  ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙
๑๑.   จัดทำหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงไปยังเจ้าบ้านภายหลังการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  ต้องจัดทำหนังสือตามแบบ อ.ส. ๗ เป็นรายบ้านเพื่อแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงไปให้เจ้าบ้านแต่ละบ้านทราบก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๑๕  วัน  ระหว่างวันที่  ๑๗  ถึงวันที่  ๑๙   กรกฎาคม  ๒๕๕๙ 
๑๒.   จัดส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน  ตามแบบ อ.ส.๗ ให้กับไปรษณีย์ เพื่อส่งเจ้าบ้านในวันที่  ๒๐กรกฎาคม
๒๕๕๙
๑๓.   รับคำร้องขอเพิ่มชื่อ – ถอนชื่อ ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงระหว่างวันที่  ๑๗  ถึงวันที่  ๒๗
กรกฎาคม  ๒๕๕๙  การดำเนินการกรณีพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงมีความผิดพลาด  กรณีนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  หรือคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนไม่ว่าพบสาเหตุดังกล่าวก่อนหรือหลังการปิดประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้รายงานต่อคณะกรรมการออกเสียงประจำเขตออกเสียงโดยเร็ว
          เมื่อคณะกรรมการออกเสียงประจำเขตออกเสียงได้รับรายงานกรณีดังกล่าวต้องรีบพิจารณาโดยเร็ว (ภายใน  ๓  วัน)  หากพิจารณาแล้วเห็นว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงใดมีชื่อตกหล่นหรือปรากฏชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงต้องมีคำสั่งให้เพิ่มชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงที่มีชื่อตกหล่นหรือมีคำสั่งให้ถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงแล้วแต่กรณี และแจ้งคำสั่งไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่ได้รับรายงาน
วิธีการเพิ่มชื่อ
          ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงด้วยวิธีการพิมพ์ชื่อและรายการเพิ่มเติมต่อใบสุดท้ายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงในหน่วยนั้น  พร้อมทั้ง  บันทึกสาเหตุของการเพิ่มชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี  กำกับไว้  และให้แจ้งเจ้าบ้าน พร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงมีคำสั่ง

การเพิ่มชื่อโดยเจ้าบ้านหรือผู้มีสิทธิออกเสียง
          กรณีผู้มีสิทธิออกเสียงหรือเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่า ตนหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตนเป็นผู้มีคุณสมบัติ เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงแต่ไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงนั้น ให้ผู้นั้นนำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นใดที่ทางราชการออกให้มายื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อ ตามแบบ อ.ส.๗ ต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๑๐ วัน  เมื่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นได้รับคำร้องและหลักฐานแล้วให้รีบตรวจสอบหลักฐานกรณีเห็นว่า 
          เป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งเพิ่มชื่อลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงด้วยวิธีพิมพ์รายชื่อและรายการเพิ่มเติมต่อในใบสุดท้ายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงนั้น พร้อมบันทึกสาเหตุของการเพิ่มชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน  ปี กำกับไว้ แล้วแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
          เป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  มีคำสั่งยกเลิกคำร้องและแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องและแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
          กรณีผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านที่ได้รับจากจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นแล้ว        ไม่เห็นชอบด้วย  ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า  ๕  วัน  เพื่อขอให้พิจารณาเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง เมื่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงพิจารณาแล้วเห็นว่า
          กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งเพิ่มชื่อผู้นั้นลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงและแจ้งคำสั่งนั้นไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง  ในกรณีนี้ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอ  โดยให้ดำเนินการเพิ่มชื่อ และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบภายใน  ๓  วัน นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
          กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งยกคำร้อง และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน นับแต่วนที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
วิธีการถอนชื่อ
                   ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงที่ให้ถอนชื่อ  ด้วยวิธีการขีดฆ่าชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง พร้อมทั้งบันทึกสาเหตุของการถอนชื่อไว้ในช่องหมายเหตุลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี กำกับไว้และให้แจ้งเจ้าบ้านพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงมีคำสั่ง         
          การถอนชื่อโดยผู้มีสิทธิออกเสียง 
          กรณีผู้มีสิทธิออกเสียงผู้ใดเห็นว่า  ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียง  มีชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงปรากฏอยู่  ผู้มีสิทธิออกเสียงนั้นสามารถยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานขอถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงดังกล่าวออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง  ตามแบบ อ.ส.๘ ต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน เมื่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า
          กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง  โดยให้ดำเนินการขีดฆ่าพร้อมบันทึกสาเหตุของการถอนชื่อไว้ในช่อง   หมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี กำกับไว้  แล้วให้แจ้งให้ผู้ยื่นคำร้อง  เจ้าบ้าน  และผู้ถูกถอนชื่อทราบภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
          กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งยกเลิกคำร้องและแจ้งผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
          กรณีที่ผู้ยื่นคำร้องได้รับแจ้งจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  แล้วไม่เห็นชอบด้วย  ให้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๕  วัน เพื่อขอให้พิจารณาถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง ถ้าคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเห็นว่า
          กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง  และแจ้งคำสั่งไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓ วัน  นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอโดยการขีดฆ่าชื่อออก  และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายใน  ๓  วันนับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
          กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้อนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งยกเลิกคำร้อง  และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง  โดยคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
          การถอนชื่อโดยเจ้าบ้าน
          กรณีเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่า ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงปรากฏชื่อบุคคลอื่นในบ้านของตน  โดยที่บุคคลนั้นมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง  ให้เจ้าบ้านหรือเจ้าบ้านมอบหมายนำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านไปแสดงเป็นหลักฐานต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า  ๑๐  วันถ้านายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพิจาณาแล้วเห็นว่า
          เป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งยกคำร้องและแจ้งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
          เป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  มีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง โดยการขีด ฆ่าชื่อออก  และแจ้งคำสั่งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่ได้รับหลักฐานจากเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย
          กรณีเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายได้รับจากจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นแล้วไม่เห็นขอบด้วย  ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า  ๕  วัน  เพื่อขอให้พิจารณาถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  เมื่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเห็นว่า
          กรณีผู้ถูกถอนชื่อเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง  ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงและแจ้งคำสั่งนั้นไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน  ๓  วัน  นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอ  โดยให้ดำเนินการขีด ฆ่าชื่อออก และแจ้งคำสั่งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมมอบหมายทราบภายใน  ๓  วัน นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
          กรณีผู้ที่ถูกถอนชื่อเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง  ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง        ยกคำร้อง และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน นับแต่วนที่คณะอนุกรรมการการอกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
๑๔. พิมพ์บัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงเพิ่มเติมในส่วนของผู้ขอเพิ่มชื่อ ระหว่างในที่  ๒๗  ถึงวันที่  ๒๙ กรกฎาคม  ๒๕๕๙
๑๕. ให้บริการตรวจสอบการใช้สิทธิออกเสียงระหว่างวันที่  ๑๗ กรกฎาคม  ถึงวันที่ ๗  สิงหาคม ๒๕๕๙