การสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช......
ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช.... ในวันที่ ๗
สิงหาคม ๒๕๕๙ และตามหนังสือ.... ด่วนที่สุด ที่ พร ๐๐๑๘.๑/ว ๑๘๕๑ ลงวันที่
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เรื่อง
การเตรียมการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ
ในภารกิจของสำนักทะเบียน
หนังสือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง
ประจำ.... ด่วนที่สุด ที่ ลต (พร) ๐๗๐๒/ว ๒๕๐ ลงวันที่ ๑๒
พฤษภาคม ๒๕๕๙ เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติของนายทะเบียนอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น
เพื่อเป็นการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช.......
ในด้านภารกิจความรับผิดชอบของสำนักทะเบียนท้องถิ่น............ ได้ดำเนินการดังนี้
ขั้นตอนดำเนินการ
๑. จัดทำบันทึกเพื่อขออนุมัติปฏิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อดำเนินการสนับสนุนการจัดการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ.......
๒. เมื่อได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการสนับสนุนการจัดการลงประชามติฯ
จากนายกเทศมนตรี........ เรียบร้อยแล้ว
ดำเนินการจัดทำคำสั่ง............ ที่ .............
เรื่อง
การแต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานนอกเวลาราชการเพื่อสนับสนุนการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ................ เนื่องจากบางภารกิจไม่สามารถปฏิบัติงานในเวลาราชการได้
๓. จัดทำคำสั่ง
สำนักทะเบียนท้องถิ่น............ ที่ .............. เรื่อง
การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่
รับผิดชอบปฏิบัติงานสนับสนุนการออกเสียงประชามติฯ
๔. รับลงทะเบียนผู้มีสิทธิขอเปลี่ยนแปลงการออกเสียงนอกเขตจังหวัด ระหว่างวันที่
๑ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๗
กรกฎาคม ๒๕๕๙
ซึ่งสำนักทะเบียนท้องถิ่น............
มีผู้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดทั้งหมด จำนวน
๓ ราย ขั้นตอนในการยื่นคำร้อง ผู้ยื่นคำร้องยื่นคำร้อง
ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่น............ ณ
ที่ว่าการ....
เมื่อได้รับคำร้องแล้วดำเนินการตรวจสอบข้อมูลของผู้ยื่นคำร้องเบื้องต้นกับฐานข้อมูลระบบงานเลือกตั้ง
ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติสามารถลงทะเบียนได้ รับคำร้องเสนอให้นายทะเบียนพิจารณา
นายทะเบียนพิจารณาอนุมัติรับคำร้องดำเนินการบันทึกข้อมูลของลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขตจังหวัดในระบบคอมพิวเตอร์
งานเลือกตั้ง การออกเสียงประชามติ
ดำเนินการบันทึกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แจ้งให้กับผู้ยื่นคำร้องทราบตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้ให้ตอบกลับภายใน
๓ วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
๕. จัดทำบันทึกหน่วยออกเสียงประชามติ ระหว่างวันที่
๓๐ มิถุนายน ถึงวันที่
๓ กรกฎาคม ๒๕๕๙
โดยติดต่อประสานงานกับกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง
๑๐ หมู่บ้าน
เพื่อจัดทำร่างหน่วยและกำหนดสถานที่ออกเสียงประชามติ ในเขตพื้นที่........ มีจำนวน
๑๐ หมู่บ้าน มีหน่วยออกเสียงจำนวน ๑๒
หน่วยออกเสียง
ส่งให้คณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๒๕ วัน เพื่อพิจารณาลงนามปิดประกาศตามแบบ อ.ศ. ๔ จำนวน
๔ ชุด
๖. เมื่อคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอได้รับร่างประกาศหน่วยออกเสียง และที่ออกเสียงแล้วตรวจสอบว่าถูกต้องตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เห็นว่าถูกต้อง
จัดพิมพ์ประกาศกำหนดหน่วยออกเสียงและที่ออกเสียง
ระหว่างวันที่ ๔ ถึงวันที่ ๗
กรกฏาคม๒๕๕๙ จำนวน ๔ ชุด
เพื่อให้ประธานคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอลงนามแล้วดำเนินการ
ดังนี้ ชุดที่ ๑ ปิดประกาศ
ณ ที่ออกเสียง ชุดที่ ๒ ส่งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
เพื่อเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด
ชุดที่ ๓ มอบให้คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงปิดประกาศ ณ
ที่ออกเสียงในวันออกเสียงชุดที่ ๔ ให้นายทะเบียนเก็บรักษาไว้เป็นชุดสำรอง
๗. ประมวลผลข้อมูลผู้มีสิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดและส่งข้อมูลไปหมายเหตุในบัญชีปกติ
ระหว่างวันที่ ๘ ถึงวันที่
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙
๘. ส่งประกาศหน่วยออกเสียงและที่ออกเสียงให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขต วันที่
๘ กรกฎาคม ๒๕๕๙
๙. จัดทำประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๒๕ วัน
ระหว่างวันที่ ๑๒ ถึงวันที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๙
ผู้อำนวยการทะเบียนกลางตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
หรือผู้ที่ผู้อำนวยการทะเบียนกลางมอบหมายมีหน้าที่จัดทำร่างประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงตามแบบ
อ.ส.๖ จำนวน ๔ ชุด
ส่งให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเพื่อพิจารณา
เมื่อคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอได้รับร่างประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงจากนายทะเบียนท้องถิ่น
ตรวจสอบความถูกต้องแล้วคณะอนุกรรมการประจำอำเภอมอบหมายจะลงนามประกาศบัญชีรายชื่อและปิดประกาศ ณ
สถานที่ที่กำหนดไม่น้อยกว่า ๒๐
วัน
การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
- จัดทำเป็นรายหน่วยออกเสียง (หมู่บ้าน) โดยเรียงตามลำดับเลขหมายประจำบ้านรวมทั้งให้จัดเรียงตามตัวอักษรของผู้มีสิทธิออกเสียงในแต่ละบ้าน
- ต้องมีรายการ เลขหมายประจำบ้าน เลขประจำตัวประชาชน ชื่อตัว
ชื่อสกุล เพศ
- มีชื่อ สกุล
และตำแหน่งของผู้พิมพ์และผู้ทานที่สามารถตรวจสอบได้
- บัญชีรานชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงให้จัดทำจำนวน ๔
ชุด ให้ปิดประกาศ ดังนี้
ชุดที่ ๑
ปิดประกาศไว้ ณ ที่ออกเสียง
ชุดที่ ๒
สำหรับนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ใช้แก้ไปรับปรุงกรณี
การเพิ่มชื่อ การถอนชื่อ
หรือการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แล้วเก็บรักษาไว้
ชุดที่ ๓ ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น
แก้ไขปรับปรุงให้ตรงกับ
ชุดที่
๒
แล้วมอบให้คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียงปิดประกาศ
ณ
ที่ออกเสียง ในวันออกเสียง
ชุดที่ ๔ ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น แก้ไขปรับปรุงให้ตรงกับ
ชุดที่
๒ แล้วจัดทำปกให้มีความแตกต่างจากชุดอื่น เพื่อส่งมอบให้
คณะกรรมการประจำหน่วยออกเสียไว้ใช้ตรวจสอบการใช้สิทธิออกเสียง
และให้ผู้มีสิทธิออกเสียงลงลายมือชื่อในการลงคะแนนออกเสียง
๑๐.
ส่งบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิอกเสียงให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด วันที่
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๙
๑๑. จัดทำหนังสือแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงไปยังเจ้าบ้านภายหลังการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ต้องจัดทำหนังสือตามแบบ อ.ส. ๗
เป็นรายบ้านเพื่อแจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงตามบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงไปให้เจ้าบ้านแต่ละบ้านทราบก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๑๕
วัน ระหว่างวันที่ ๑๗
ถึงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม
๒๕๕๙
๑๒.
จัดส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน ตามแบบ อ.ส.๗ ให้กับไปรษณีย์
เพื่อส่งเจ้าบ้านในวันที่ ๒๐กรกฎาคม
๒๕๕๙
๑๓. รับคำร้องขอเพิ่มชื่อ – ถอนชื่อ ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงระหว่างวันที่ ๑๗
ถึงวันที่ ๒๗
กรกฎาคม ๒๕๕๙
การดำเนินการกรณีพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงมีความผิดพลาด
กรณีนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น หรือคณะอนุกรรมการออกเสียงประจำอำเภอพบว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนไม่ว่าพบสาเหตุดังกล่าวก่อนหรือหลังการปิดประกาศบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
ให้รายงานต่อคณะกรรมการออกเสียงประจำเขตออกเสียงโดยเร็ว
เมื่อคณะกรรมการออกเสียงประจำเขตออกเสียงได้รับรายงานกรณีดังกล่าวต้องรีบพิจารณาโดยเร็ว
(ภายใน ๓
วัน) หากพิจารณาแล้วเห็นว่าบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงใดมีชื่อตกหล่นหรือปรากฏชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงต้องมีคำสั่งให้เพิ่มชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงที่มีชื่อตกหล่นหรือมีคำสั่งให้ถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงแล้วแต่กรณี
และแจ้งคำสั่งไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓
วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงาน
วิธีการเพิ่มชื่อ
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น
ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงด้วยวิธีการพิมพ์ชื่อและรายการเพิ่มเติมต่อใบสุดท้ายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงในหน่วยนั้น พร้อมทั้ง
บันทึกสาเหตุของการเพิ่มชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี กำกับไว้
และให้แจ้งเจ้าบ้าน พร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงมีคำสั่ง
การเพิ่มชื่อโดยเจ้าบ้านหรือผู้มีสิทธิออกเสียง
กรณีผู้มีสิทธิออกเสียงหรือเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่า
ตนหรือผู้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของตนเป็นผู้มีคุณสมบัติ
เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงแต่ไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงนั้น
ให้ผู้นั้นนำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นใดที่ทางราชการออกให้มายื่นคำร้องขอเพิ่มชื่อ
ตามแบบ อ.ส.๗
ต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน
เมื่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นได้รับคำร้องและหลักฐานแล้วให้รีบตรวจสอบหลักฐานกรณีเห็นว่า
เป็นผู้มีสิทธิออกเสียง
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งเพิ่มชื่อลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงด้วยวิธีพิมพ์รายชื่อและรายการเพิ่มเติมต่อในใบสุดท้ายของบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียงนั้น
พร้อมบันทึกสาเหตุของการเพิ่มชื่อไว้ในช่องหมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี กำกับไว้
แล้วแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
เป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น
มีคำสั่งยกเลิกคำร้องและแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องและแจ้งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓
วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
กรณีผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านที่ได้รับจากจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นแล้ว ไม่เห็นชอบด้วย
ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า ๕
วัน
เพื่อขอให้พิจารณาเพิ่มชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
เมื่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงพิจารณาแล้วเห็นว่า
กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง
ให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งเพิ่มชื่อผู้นั้นลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงและแจ้งคำสั่งนั้นไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓
วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ในกรณีนี้ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอ โดยให้ดำเนินการเพิ่มชื่อ และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
ให้คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งยกคำร้อง
และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องหรือเจ้าบ้านทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วนที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
วิธีการถอนชื่อ
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงที่ให้ถอนชื่อ
ด้วยวิธีการขีดฆ่าชื่อออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
พร้อมทั้งบันทึกสาเหตุของการถอนชื่อไว้ในช่องหมายเหตุลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี
กำกับไว้และให้แจ้งเจ้าบ้านพร้อมด้วยเหตุผลภายใน
๓ วัน
นับแต่วันที่คณะกรรมการการออกเสียงประจำเขตออกเสียงมีคำสั่ง
การถอนชื่อโดยผู้มีสิทธิออกเสียง
กรณีผู้มีสิทธิออกเสียงผู้ใดเห็นว่า
ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงของหน่วยออกเสียง มีชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงปรากฏอยู่ ผู้มีสิทธิออกเสียงนั้นสามารถยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานขอถอนชื่อผู้ไม่มีสิทธิออกเสียงดังกล่าวออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ตามแบบ อ.ส.๘
ต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน
เมื่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นได้พิจารณาคำร้องแล้วเห็นว่า
กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งถอนชื่อผู้นั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
โดยให้ดำเนินการขีดฆ่าพร้อมบันทึกสาเหตุของการถอนชื่อไว้ในช่อง หมายเหตุและลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี กำกับไว้ แล้วให้แจ้งให้ผู้ยื่นคำร้อง เจ้าบ้าน
และผู้ถูกถอนชื่อทราบภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งยกเลิกคำร้องและแจ้งผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
กรณีที่ผู้ยื่นคำร้องได้รับแจ้งจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น แล้วไม่เห็นชอบด้วย
ให้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๕ วัน
เพื่อขอให้พิจารณาถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง ถ้าคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเห็นว่า
กรณีเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง
และแจ้งคำสั่งไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอโดยการขีดฆ่าชื่อออก และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบภายใน ๓
วันนับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
กรณีเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง
ให้อนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งยกเลิกคำร้อง และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน
๓ วัน นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
โดยคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
การถอนชื่อโดยเจ้าบ้าน
กรณีเจ้าบ้านผู้ใดเห็นว่า
ในบัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงปรากฏชื่อบุคคลอื่นในบ้านของตน
โดยที่บุคคลนั้นมิได้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านดังกล่าวจริง
ให้เจ้าบ้านหรือเจ้าบ้านมอบหมายนำสำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านไปแสดงเป็นหลักฐานต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นก่อนวันออกเสียงไม่น้อยกว่า ๑๐
วันถ้านายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพิจาณาแล้วเห็นว่า
เป็นผู้มีสิทธิออกเสียง
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นมีคำสั่งยกคำร้องและแจ้งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
เป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น
มีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง โดยการขีด
ฆ่าชื่อออก
และแจ้งคำสั่งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายทราบภายใน ๓
วัน
นับแต่วันที่ได้รับหลักฐานจากเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย
กรณีเจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมอบหมายได้รับจากจากนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นแล้วไม่เห็นขอบด้วย
ให้ผู้นั้นมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอก่อนวันออกเสียงประชามติไม่น้อยกว่า ๕
วัน
เพื่อขอให้พิจารณาถอนชื่อบุคคลผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
เมื่อคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอเห็นว่า
กรณีผู้ถูกถอนชื่อเป็นผู้ไม่มีสิทธิออกเสียง
ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งถอนชื่อบุคคลนั้นออกจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงและแจ้งคำสั่งนั้นไปยังนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓
วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้อง
ให้นายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นปฏิบัติตามคำสั่งของคณะอนุกรรมการการเสียงประจำอำเภอ โดยให้ดำเนินการขีด ฆ่าชื่อออก
และแจ้งคำสั่งให้เจ้าบ้านหรือผู้ซึ่งเจ้าบ้านมมอบหมายทราบภายใน ๓ วัน
นับแต่วันที่คณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง
กรณีผู้ที่ถูกถอนชื่อเป็นผู้มีสิทธิออกเสียง ให้อนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่ง ยกคำร้อง
และแจ้งคำสั่งให้ผู้ยื่นคำร้องทราบพร้อมด้วยเหตุผลภายใน ๓ วัน
นับแต่วนที่คณะอนุกรรมการการอกเสียงประจำอำเภอมีคำสั่งของคณะอนุกรรมการการออกเสียงประจำอำเภอให้เป็นที่สุด
๑๔. พิมพ์บัญชีผู้มีสิทธิออกเสียงเพิ่มเติมในส่วนของผู้ขอเพิ่มชื่อ
ระหว่างในที่ ๒๗ ถึงวันที่
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙
๑๕. ให้บริการตรวจสอบการใช้สิทธิออกเสียงระหว่างวันที่ ๑๗ กรกฎาคม
ถึงวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙